หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูสมุห์อดิศร อนาลโย
 
เข้าชม : ๒๐๐๐๓ ครั้ง
พฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม(การจัดการเชิงพุทธ)
ชื่อผู้วิจัย : พระครูสมุห์อดิศร อนาลโย ข้อมูลวันที่ : ๑๙/๐๒/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  อุบล วุฒิพรโสภณ
  สุทธญาณ์ โอบอ้อม
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๘ มีนาคม ๒๕๕๙
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

 

สารนิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของพระสังฆาธิการต่อพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม (๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสังฆาธิการต่อพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ พระสังฆาธิการในจังหวัดนครปฐม จำนวนทั้งสิ้น จำนวน ๑๙๒ รูป ใช้วิธีรูปแบบการวิจัยแบบผสมประกอบด้วยวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

๑. พระสงฆ์มีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากโดยมีค่าเฉลี่ย ๓.๘๖๗ และเมื่อจำแนกเป็นรายด้านแล้วพบว่า พระสงฆ์มีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านที่มีความคิดเห็นสูงสุดคือ ด้านประเภทของสารสนเทศกับด้านเครื่องมือที่ใช้ค้นหาสารสนเทศ มีค่าเฉลี่ย ๓.๘๙๓ และที่มีความคิดเห็นต่ำสุดคือ ด้านการใช้สารสนเทศด้านการสื่อสาร มีค่าเฉลี่ย ๓.๘๑๑

๒. ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม โดยจำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีวุฒิการศึกษาสามัญ มีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม แตกต่างกัน อย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้  ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ พรรษา วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม และตำแหน่งทางคณะสงฆ์ มีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความคิดเห็นของพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม พบว่า พระสงฆ์ยังขาดความรู้ความเข้าใจในงานด้านสารสนเทศ เช่น มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศผิดประเภท การรับข้อมูลจากสื่อบางประเภทที่ขาดความน่าเชื่อถือ ภาษาต่างชาตินั้นหาคนที่มีความเข้าใจยาก ดังนั้นควรจัดให้มีการอบรมให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่พระสังฆาธิการ ด้านงานเอกสารควรที่จะตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดก่อนส่งข้อมูลทุกครั้ง นอกจากนี้มีควรส่งเสริมให้ความรู้ความเข้าใจในการใช้เอกสารอ้างอิง เพื่อให้ความรู้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องในการนำข้อมูลทางวิชาการมาปรับใช้ในการบริหารงานกิจกรรมคณะสงฆ์ แนวทางในการส่งเสริมพฤติกรรมการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารงานคณะสงฆ์ จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมพบว่า การรับส่งข้อมูลสารสนเทศที่ดีจำเป็นที่จะนำข้อมูลข่าวสารมาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพราะการรับส่งข้อมูลสารสนเทศที่ดีเป็นกระบวนการที่เสนอแนะให้ผู้บริหารงานสร้างแผนกลยุทธ์ที่นำไปสู่การพัฒนากิจการคณะสงฆ์ ผู้ใช้สารสนเทศจะต้องเน้นศึกษาเรื่องการใช้งานสารสนเทศทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้เหมาะสมกับการใช้งานในการรับส่งสาร เพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จในการได้มาซึ่งสารสนเทศที่มีประโยชน์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือการใช้สารสนเทศก็เพื่อนำความสามารถของผู้ใช้งานและคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศในการดำเนินงานการจัดการและการตัดสินใจในพัฒนาองค์กรคณะสงฆ์สืบต่อไป

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕