หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » นางยุวดี พนาวรรต
 
เข้าชม : ๒๐๐๓๔ ครั้ง
ประสบการณ์ทางจิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการบำบัดด้วยพลังจิตตามแนวพุทธ
ชื่อผู้วิจัย : นางยุวดี พนาวรรต ข้อมูลวันที่ : ๑๒/๐๘/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระครูปลัดปริยัติวรวัฒน์, ดร. ป.ธ.๓, พธ.บ. M.A., Ph.D
  รศ. ดร. เรียม ศรีทอง กศ.บ. (เคมี-คณิตศาสตร์), กศ.ม. (การแนะแนว), Ph.D. (Education : Guidance and Counseling)
  ดร. นิรนาท แสนสา ศศ.บ. (จิตวิทยาและการแนะแนว), ศศ.ม. (จิตวิทยาการปรึกษา), กศ.ด. (พัฒนศึกษาศาสตร์)
วันสำเร็จการศึกษา : 2555
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

 

                         การศึกษาประสบการณ์ทางจิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการบำบัดด้วยพลังจิตตามแนวพุทธ  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะประสบการณ์ทางจิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการบำบัดด้วยพลังจิตตามแนวพุทธ  อันเป็นแนวทางในการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจและยอมรับความเป็นจริงของชีวิตขณะเจ็บป่วย  โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ  เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ป่วยโรคมะเร็ง ๑๓ รายที่คัดเลือกตามคุณสมบัติที่กำหนด  จากศูนย์อโรคยศาล วัดคำประมง จังหวัดสกลนคร และสมาคมสถาบันพลังกายทิพย์เพื่อสุขภาพ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร  ระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนสิงหาคม  ๒๕๕๔

                   ผลการศึกษาครั้งนี้ได้ข้อมูลแบ่งเป็น ๓ ระยะกล่าวคือ ระยะที่ ๑ การรับรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง รูปแบบการรักษา สุขภาพกายและสภาวะจิต ก่อนเข้ารับการบำบัดด้วยพลังจิตตามแนวพุทธ ผู้ป่วยต่างรับรู้ว่ามะเร็งเป็นโรคร้ายแรง รักษาไม่หาย นำไปสู่การเสียชีวิต  เป็นโรคเวรโรคกรรม  มีความแตกต่างกันระหว่างผู้ป่วยที่ไม่เคยปฏิบัติสมาธิ       มาก่อนมักไม่ยอมรับความจริง มีความห่วง วิตกกังวล เกิดความเครียด ทรมานใจที่ต้องอดทนต่อสู้กับโรคร้าย ส่วนผู้ปฏิบัติสมาธิมาก่อน จะมีสติเมื่อรับรู้ว่าเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากเข้าใจและยอมรับความจริงของชีวิต  การหารูปแบบการรักษาแบ่งได้เป็น ๒ วิธีคือ การแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือก  ระยะที่ ๒ การรับรู้รูปแบบการรักษา สุขภาพกายและสภาวะจิตขณะรับการบำบัดตามแนวทางแพทย์แผนปัจจุบันที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่เลือกใช้เป็นอันดับแรกเพราะเห็นว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ทันสมัย  น่าเชื่อถือ  และเห็นผล  แต่เมื่อเข้ารับการบำบัดแล้วพบว่าแพทย์เน้นการรักษาเฉพาะโรคที่เกิดกับกาย ภายในจิตใจยังคงมีความเครียด ทั้งยังเกิดความทุกข์ทรมานจากอาการข้างเคียงของการรักษา ขณะที่แพทย์ก็ยังไม่ให้ความหวัง จนต้องหันมาใช้แพทย์ทางเลือกคือพลังจิตตามแนวพุทธ แต่ผู้ป่วยบางส่วนก็เลือกใช้พลังจิตตามแนวพุทธโดยตรง  ระยะที่ ๓ การรับรู้รูปแบบการรักษา สุขภาพกายและสภาวะจิตหลังเข้ารับการบำบัดด้วยพลังจิตตามแนวพุทธซึ่งผู้ให้ข้อมูลรับรู้เป็น ๓ ลักษณะ  ได้แก่ ๑) เป็นธรรมโอสถรักษาใจ เกิดปัญญารู้เท่าทันความจริง ไม่ปรุงแต่ง  ๒) ผ่อนคลายความตึงเครียดของจิตใจ เกิดความสงบทางอารมณ์  ๓) เสริมสร้างภูมิต้านทานตามธรรมชาติให้ทำหน้าที่ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้

                   การบำบัดด้วยพลังจิตตามแนวพุทธ จะประสบความสำเร็จเพียงใดขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตนตามหลักธรรมพละ ๕ และอินทรีย์ ๕ ซึ่งประกอบด้วยองค์ธรรมเดียวกันคือ ศรัทธา : ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนกระทำ  วิริยะ : ความพากเพียรไม่ท้อถอย  สติ : ความระลึกได้ในสิ่งที่กระทำอยู่  สมาธิ : ความสงบมีจิตตั้งมั่น และ  ปัญญา : ความรอบรู้ ความเข้าใจที่คอยควบคุม  ผู้ให้ข้อมูลรับรู้ว่าพลังจิตตามแนวพุทธช่วยให้หายจากโรคร้ายได้  หรือแม้     ไม่หายก็สามารถใช้ชีวิตปัจจุบันอยู่กับโรคมะเร็งได้ด้วยจิตใจเข้มแข็ง รู้จักปล่อยวาง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

                   มีข้อเสนอแนะสำหรับผู้ป่วยที่สนใจเลือกการบำบัดด้วยพลังจิตตามแนวพุทธ  ได้แก่  ๑. ควรเข้ารับการบำบัดรักษาทันทีที่ทราบผลว่าเป็นโรคมะเร็ง  ถ้าโรคยังไม่ลุกลามมากมีโอกาสสูงที่จะหาย  ๒.ปฏิบัติตามแนวทางการรักษาของสถานบำบัดนั้น ๆ  ๓. ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง  ๔. มีความอดทน ความพากเพียรในการปฏิบัติ  ญาติ และผู้ใกล้ชิดคอยช่วยเหลือด้านจิตใจ จะทำให้บรรลุผลดียิ่งในการบำบัดรักษา

ดาวน์โหลด

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕